สเต็มเซลล์ (Stem cell) หรือเซลล์ต้นกำเนิด คือ เซลล์ที่ยังไม่มีการพัฒนาเป็นเซลล์ชนิดใดที่มีความสามารถในการแบ่งตัวได้และสามารถพัฒนาเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่เฉพาะชนิดต่างๆ ในร่างกายและอาจกลายเป็นเนื้อเยื่อหรืออวัยวะได้ในที่สุดเมื่ออยู่ในสภาวะที่เหมาะสม
1) Embryonic stem cells คือ สเต็มเซลล์ที่สามารถแยกได้จาก Embryo หรือตัวอ่อนในระยะ Blastocyst มีความสามารถในการแบ่งตัวและเปลี่ยนแปลง (Differentiate)ไปเป็นเซลล์อื่นๆได้เกือบทุกชนิด (Pluripotency) แต่การนำสเต็มเซลล์ชนิดนี้มาใช้ในปัจจุบันมีปัญหาอย่างมากทางด้านจริยธรรม และ 2) Adult stem cells คือ สเต็มเซลล์ชนิดโตเต็มวัยที่พบในอวัยวะต่างๆ นับตั้งแต่เมื่อคนหรือสัตว์คลอดออกมาจากครรภ์เป็นสเต็มเซลล์ที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์อื่นๆ ได้หลายชนิด (Multipotency) ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดและแหล่งที่มาของสเต็มเซลล์ชนิดนั้นๆ ทั้งนี้ สามารถพบสเต็มเซลล์ชนิดนี้ได้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ได้แก่ ไขกระดูก (Bonemarrow) เลือด (Peripheralblood) เลือดจากสายรก (Cord blood) รก (Placenta) ไขมัน (Adipose tissue) ฟันน้ำนม (Baby teeth) เป็นต้น
ในปัจจุบันมีผลการศึกษาวิจัยและมีการใช้สเต็มเซลล์เพื่อการรักษาโรคร้ายแรงที่ยังไม่สามารถรักษาได้ อาทิเช่น โรคเลือด โรคมะเร็งบางชนิด โรคที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคที่เกี่ยวกับสมองและประสาทไขสันหลัง โรคข้อ และโรคที่เกิดจากความเสื่อมของอวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆ ดังนั้น การเก็บสเต็มเซลล์ของเราเพื่อนำมาใช้ในอนาคตจะเป็นการประกันได้ว่าเรามีสเต็มเซลล์ที่ดีและมีคุณภาพไว้ใช้ในยามจำเป็น อีกทั้ง เป็นสเต็มเซลล์ของเราเองซึ่งร่างกายจะไม่ถูกปฏิเสธใดๆ ทำให้ได้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลเมื่อได้รับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดของเราเองในการรักษาโรคร้ายแรงหรือการซ่อมแซมความเสื่อมของร่างกาย และยังสามารถใช้ได้กับญาติสายตรงได้อีกด้วย
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีการนำเอาเซลล์ต้นกำเนิดจากฟันมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์อย่างแพร่หลาย แต่ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในการพัฒนาวิจัยเกี่ยวกับเซลล์ต้นกำเนิดชนิดต่างๆ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่จะนำมาใช้ในการรักษาโรคในอนาคตได้มากมาย ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นโดยไม่มีข้อโต้แย้งทางจริยธรรมใดๆทั้งสิ้น ดังนั้น การจัดให้มีธนาคารจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดจากฟันย่อมมีประโยชน์ในการสนับสนุนการศึกษาวิจัยและเปิดโอกาสให้คนทั่วไปจัดเก็บฟันที่ถูกถอนหรือร่วงหลุดออกสามารถนำไปใช้เพื่อประโยชน์แก่ตนเองในอนาคต
บุคคลที่อยู่ในครอบครัวของผู้ที่มีประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงภายในครอบครัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็งบางชนิด โรคทางสมองและระบบประสาท และโรคที่สเต็มเซลล์มีโอกาสจะรักษาได้ในอนาคต เป็นต้น ควรจะเก็บเซลล์ต้นกำเนิดไว้เพื่ออนาคต ในขณะที่ยังมีสุขภาพแข็งแรงอยู่ ทั้งนี้ การฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดไว้นั้นสามารถช่วยให้มั่นใจได้ว่า “เราจะมีเซลล์ต้นกำเนิดของเราเองไว้ใช้ในยามที่เรามีความจำเป็น เพื่อใช้รักษาตัวเองในอนาคตได้อย่างทันถ่วงที"
ผู้รับบริการที่เป็นผู้ปกครองซึ่งฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดจากฟันน้ำนมและเด็กเจ้าของเซลล์ต้นกำเนิดเมื่อมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หรือบรรลุนิติภาวะ
สเต็มเซลล์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคในอนาคตของตนเองเป็นAutologous transplantation และมี โอกาสที่จะใช้ได้กับญาติสายตรงเช่นบิดามารดาปู่ย่าตายายเป็นต้น